เขียนโดย อ่างขาง
วันจันทร์ที่ 01 มีนาคม 2010 เวลา 08:55 น.
ตอน:ในคำตัดสินมาตรฐานเดียวกัน เอามาใช้กับ พล.อ. เปรมบ้างจะเป็นอย่างไร?
เมื่อวันนั้นมาถึง วันที่ประชาชนเริงร่า ท้องฟ้ายังเป็นสีเดิม ไม่ได้เป็นทองผ่องอำไพ ตั้งคณะกรรมการ คตส. ที่มาจากประชาชนบ้าง ให้ตรวจสอบการกระทำของหนึ่งในผู้บงการปล้นแผ่นดิน โดยผู้ที่มีความเป็นธรรมมากที่สุดในแผ่นดินผืนนี้ ไม่มีผีเสื้อสมุทรสุดอัปลักษณ์ ไม่มีแก้วหน้าม้า ไม่มีหัวล้านเหม็นเขียว
คนแรกที่ประชาชนจะคิดบัญชีก่อนเพื่อนคือ เปรม ติณสูลานนท์
1.ในข้อกล่าวหาพล.อ. เปรมใช้อำนาจหน้าที่ช่วยเหลือธนาคารกรุงเทพฯ ที่เป็นธุรกิจเอกชนโดยเอางบประมาณของประเทศที่เป็นเงินของประชาชนคนไทยทุกคน ไปค้ำประกันเงินของธนาคารเมื่อครั้งมีปัญหา เงินไหลไม่หยุด โดยมิชอบ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ผล การตัดสินของศาลประชาชนเป็นเอกฉัน พล.อ. เปรมใช้อำนาจหน้าที่ช่วยเหลือธนาคารกรุงเทพฯโดยเอางบประมาณของประเทศไปค้ำประกันเงินของธนาคารเมื่อ ครั้งมีปัญหา มีความผิดจริง คำตัดสินของศาลประชาชน
*ให้ดูราคาหุ้น ณวันนั้นว่าราคาเท่าไรแล้วหักออกในราคาปัจจุบัน ส่วนต่างทั้งหมดให้ยึดเป็นของประชาชน นำเอามาแจกจ่ายให้กับต้นทุนของประเทศคือชาวไร่ชาวนา เฉลี่ยเป็นครัวเรือนทุกบ้าน
*ผลกำไรทั้งหมดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ธนาคารกรุงเทพฯ ได้รับความช่วยเหลือจาก พล.อ.เปรม ให้ยึดไว้ทั้งหมด จ่ายให้กับประชาชนที่เป็นแรงงาน ทุกแห่งเป็นรายหัวรายบุคคล
2. ในข้อกล่าวหา เอาที่ดินป่าสงวนบริเวณเขาสอยดาวมาเป็นสนามกอล์ฟ โดยมี พล.อ.เ ปรมใช้อำนาจหน้าที่ ปิดบัง ปกป้อง ให้ผลการตัดสินของศาลประชาชนเป็นเอกฉัน ธนาคารกรุงเทพฯ โดยนายชาติศิริ พร้อมพรรคพวก และ พล.อ.เปรม มีความผิดจริง คำ ตัดสินของศาลประชาชน
*ยึดที่ดินบริเวณนั้นทั้งหมดกลับมาเป็นป่าธรรมชาติเหมือนเดิม
*รายได้ที่เกิดนับจากวันที่เริ่มต้นทำสนามกอล์ฟ ให้ ยึดมาเป็นของแผ่นดินทั้งหมด พร้อมแจกจ่ายไปยังพี่น้องประชาชนที่ต้องเสียผลประโยชน์ จากการเกษตรที่ต้องใช้แหล่งน้ำในบริเวณนั้นเป็นที่เพาะปลูกและเลี้ยวสัตว์
*ยึดเงินที่เป็นรายรับของ พล.อ.เปรม จากการไปเป็นที่ปรึกษาทั้งหมด เป็นของแผ่นดินแล้วนำมาแจกจ่ายให้กับ ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยที่อยู่บริเวณเขาสอยดาวอันเนื่องมาจาก สภาพแวดล้อมเป็นพิษทำให้อากาศที่หายใจเข้าไปไม่บริสุทธิ์ เพราะใช่สารเคมีในแหล่งน้ำ รดน้ำให้หญ้า
3.ในข้อกล่าวหาส่วนตัว ของพล.อ. เปรมที่เป็นที่ ปรึกษาธนาคารกรุงเพฯ ทั้งที่ยังดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีอยู่ ผลการตัดสินของศาลประชาชนเป็นเอกฉันท์ พล.อ. เปรมกระทำการอันเป็นที่มิบังควรผิดต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างร้ายแรง คำตัดสินของศาลประชาชน
*ให้พล.อ. เปรมชดใช้เงินให้กับแผ่นดินเพื่อมอบคืนการไฟฟ้าและประปา ที่จ่ายเป็นค่าน้ำค่าไฟ ในขณะที่พักอาศัยอยู่ที่บ้านสี่เสา พร้อมดอกเบี้ย ทั้งหมด
* ให้คิดค่าเช่า เป็นรายเดือน เดือนละสองแสนบาท ย้อนหลังทั้งหมด รายได้ส่วนนี้มอบให้กับผู้ยากไร้ที่อาศัยท้องสนามหลวงเป็นที่หลับนอน
* ต้องดำเนินคดีอาญาฐานแอบเอาตำแหน่งหน้าที่อันเกี่ยวข้องกับสถาบันฯมาหากินส่วนตัว ทำให้ระคายเคืองในเบื้องพระยุคลบาท ให้ศาลประชานลงโทษมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อหน้าสาธารณชน ที่ท้องสนามหลวงโดยฉับพลัน ทั้งนี้เพื่อดำรงไว้อันความศักดิ์สิทธิ์ต่อสถาบันฯ ที่ใครจะแอบอ้างนำมาหากินมิได้
* บรรดาบริวารและลิ่วล้อทั้งหมด เหตุเพราะเชื่อได้ว่าถ้าไม่มีบุคคลเช่นพวกท่านเหล่านี้ในแผ่นดิน พล.อ.เปรมก็จะไม่สามารถทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ เห็นควรให้ได้รับโทษอาญา เท่ากับ พล.อ.เปรมด้วย
จากบทโคลงสี่สุภาพของศรีปราชญ์ ที่ท่านนายกทักษิณกล่าวเอาไว้
"ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหารเรา เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้ คืนสนอง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น