วันพฤหัสบดีที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓

ส่อรื้อโผแต่งตั้งโยกย้ายตร.ระดับ รองผบก.-สว. "มาร์ค"แฉเอง"บช.ภ.2"หนักสุด "สุเทพ"จวกสุดอัปยศ

"อภิสิทธิ์" รับข้อมูลฉาวย้ายตำรวจถึงมือแล้ว แฉ "บช.ภ.2" หนักสุด "นครบาล" ประปราย เล็งตั้ง กก.สอบสวน หากพบเป็นจริงต้องรื้อโผ "สุเทพ" ขอหลักฐานซื้อขายตำแหน่ง ซัดอัปยศเสียเงินเลื่อนยศ "สวญ.ม่วงค่อม" สวมบทหมูไม่กลัวน้ำร้อนร้อง "รรท.ผบ.ตร." บช.ภ.1 ตั้งไม่เป็นธรรม

นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ว่า ข้อมูลการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.)-สารวัตร (สว.) ที่มีการร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมถึงมือแล้ว โดยให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ว่า ขณะนี้มีการส่งข้อมูลมาให้ตนแล้วซึ่งเป็นข้อมูลที่ร้องผ่าน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งตนไม่ได้ให้ พล.ต.อ.ธานีเป็นผู้รวบรวมข้อมูล เพียงแต่มีคนร้องผ่านมาเท่านั้น ซึ่งกำลังดูว่าจะทำอย่างไร แต่เบื้องต้นคิดว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนบางกรณีที่เห็นว่าหนังสือ ร้องเรียนมีสาระเพียงพอ


ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงขั้นต้องรื้อบัญชีแต่งตั้งใหม่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน เมื่อถามว่า พื้นที่ใดร้องเรียนมามากที่สุด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หนักสุดเป็นกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (บช.ภ.2) ภาคอื่นรวมถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีเข้ามาบ้าง จึงจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างดูกฎหมายและคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ว่าจะตั้งขึ้นมารูปแบบไหน ลักษณะอย่างไร หากสอบไปแล้วมีความไม่ถูกต้องอาจต้องแก้ไขโผแต่งตั้งโยกย้าย


เมื่อถามถึงการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่ง ชาติ (ก.ต.ช.) นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังนัดไม่ได้ แต่ได้ทำความเข้าใจได้ระดับหนึ่งแล้ว กำลังดูวันเวลาที่เหมาะสมอยู่

เมื่อถามว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ตัวจริงจะเข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์การชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ดูแลเต็มที่อยู่แล้ว เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ปทีปจะได้เป็นตัวจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ ก.ต.ช.


ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่ามีเรื่องร้อง เรียนการซื้อขายตำแหน่งทั้งในนครบาลและในภูมิภาคต่างๆ ว่า ยังไม่เคยได้รับการเรื่องร้องเรียนเลย ที่ร้องเรียนกันครั้งที่แล้วก็ได้สั่งการให้นางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นประธานในการสอบสวนอยู่ก็ยังไม่เสร็จ แม้จะมีนามบัตรของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีอยู่ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าลายเซ็นจริงหรือไม่ ดังนั้น ต้องช่วยกันแก้ไขให้ได้ว่าการโยกย้ายตำรวจจะทำอย่างไรให้เป็นไปตามหลัก คุณธรรมจริยธรรม หากจะต้องเสียเงินเสียทองเพื่อจะเลื่อนยศหรือตำแหน่งมันก็เป็นความอัปยศ


เมื่อถามว่า ระดับสารวัตรยังต้องจ่ายเงินกันถึง 7-8 หลัก นายสุเทพกล่าวว่า มีคนพูดอยู่เรื่อยๆ แต่ขอว่าให้ได้หลักฐานจังๆ สักที หรือสักคนก็ยังดี แต่หากนายกรัฐมนตรีสั่งการมาที่ตนก็จะพยายามหาคนที่รู้ทางหนีทีไล่มาขุดคุ้ย เอามาดูหน่อย แต่ตอนนี้ยังไม่กล้าปรักปรำใคร หากมีหลักฐานจะหาทางสืบสวนสอบสวน


นายสุเทพกล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ระบุว่า ภายในเดือนกุมภาพันธ์ จะเรียกประชุม ก.ต.ช. เพื่อเลือก ผบ.ตร.ว่า ไม่ทราบ เพราะตนรับผิดชอบในส่วนของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เท่านั้น

เมื่อถามว่า หากยังแก้ปัญหาไม่ได้อาจจะต้องให้ พล.ต.อ.ปทีป รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ไปจนเกษียณอายุราชการ นายสุเทพกล่าวว่า "ตอนนี้ก็รักษาการไปก่อน เรื่องนี้ตอบยากจริงๆ ขอความกรุณาเรื่องนี้อย่ามาถามผมอีกได้ไหม เพราะถามไปผมตอบลำบาก"


ด้าน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวถึงการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งรอง ผบก.-สว.ว่า ยังไม่มีบุคคลใดร้องเรียนเรื่องการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการแต่งตั้งแต่อย่างใด มีเพียงข่าวเท่านั้น ซึ่งตนยืนยันหากมีใครมาร้องเรียนจะดำเนินการตรวจสอบดำเนินการให้ความเป็น ธรรม


"ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ตั้ง พล.ต.อ.ธานี มาดูแลเรื่องซื้อขายตำแหน่งนั้น ผมยังไม่ทราบและยังไม่เห็นหนังสือ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้เรียกผมเข้าไปสั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้ และไม่ได้สั่งการให้ไปชี้แจงแต่อย่างใด" พล.ต.อ.ปทีปกล่าว


วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สมศรี พัฒนาคม สวญ.สภ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็น ต่อ พล.ต.อ.ปทีป กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้าย


พ.ต.ท.สมศรีกล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. สำนักงานกำลังพล และนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งตนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบกฎเกณฑ์การแต่งตั้งของสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ ประกอบกับเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2552 พล.ต.อ.ปทีปได้มีหนังสือเวียน เลขที่ 0009.231/00199 ถึงผู้บัญชาการทั่วประเทศเรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ในข้อ 7 ของหนังสือระบุว่า สำหรับข้าราชการตำรวจที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสถานีตำรวจตามโครงการพัฒนาสถานี ตำรวจเพื่อประชาชนประจำปี 2552 แต่ละกลุ่มตำแหน่งให้หน่วยพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ และให้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งทุกราย


"ผมได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการโรงพักเพื่อประชาชนใน ระดับสารวัตรใหญ่หัวหน้าสถานี และเข้ารับประกาศเกียรติคุณจาก รรท.ผบ.ตร.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2552 พร้อมกันนี้ สถานีตำรวจม่วงค่อมยังได้รับรางวัลชนะเลิศมวลชนสัมพันธ์ดีเด่นอันดับ 1 ของตำรวจภูธรภาค 1 รางวัลฝึกตำรวจดีเด่นอันดับ 2 อีกด้วย แต่เมื่อพิจารณาแต่งตั้งใน บช.ภ.1 ผมไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง" พ.ต.ท.สมศรีกล่าว และว่า ตามหลักเกณฑ์แต่งตั้งโยกย้ายตนมีคุณสมบัติครบ อยากถามว่า บช.ภ.1 เอาหลักเกณฑ์อะไรมาตัดสินที่ไม่พิจารณาแต่งตั้งตน และในคำสั่งนี้ บางโรงพัก เช่น สภ.คลองสิบสอง สภ.สวนพริกไทย หัวหน้าสถานีอยู่ไม่ถึง 1 ปี ก็ถูกโยกย้ายออกไปอีสาน ทั้งๆ ที่ได้รางวัลดีเด่นโรงพักเพื่อประชาชนเหมือนกัน แต่สารวัตรที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ผู้กำกับการเสนอย้ายออกนอกหน่วยเพราะมีพฤติกรรมไม่ดีกลับได้รับการเลื่อน ตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับการ


พ.ต.ท.สมศรีกล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรมกับคนทำงาน คนทำบัญชีแต่งตั้งของภาคได้ดี มีการยกเว้นหลักเกณฑ์ เรื่องวิ่งเต้นตนไม่ว่า แต่คนทำงานไม่ได้รับการพิจารณา ใครจะมีกำลังใจทำงานเพื่อประชาชน


วันที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 23:20:29 น. มติชนออนไลน์

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1265202018&grpid=00&catid=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น