ชี้ถอดยศ"แม้ว"เพิ่มความแตกแยก
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ทำความเห็นถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกับริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์คืน เนื่องจากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกคดีที่ดินรัชดา ว่า เบื้องต้นได้คุย กับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างแล้ว คิดว่ารัฐบาลพยายามสร้างความชอบธรรมในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยใช้คณะกรรมการกฤษฎีกามาอ้างอิงข้อกฎหมาย สำหรับยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นได้รับพระราชทาน จากการทำงานเป็นข้าพระบาท ทำด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ การที่รัฐบาลนำเอาคดีที่ดินรัชดา มาริบเครื่องราชฯ และถอดยศนั้น อย่าลืมว่าคดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น และเกิดภายหลังการยึดอำนาจ
นายนพดล กล่าวอีกว่า รัฐบาลชุดนี้ดิสเครดิต และจ้องทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกวิถีทาง เนื่องจาก หลายคดีที่ นายตำรวจ ทหารมีความผิดร้ายแรงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่มีการดำเนินการถอดยศ จึงเกรงว่าการกระทำของรัฐบาล อาจเป็นการสร้างความร้าวฉาน ความแตกแยกให้สังคมมากขึ้นไปอีก หากเกิดความไม่ปรองดอง หรือ เกิดความวุ่นวาย เกิดความรุนแรงขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ 9 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลประสบความล้มเหลวในการสร้างความสมานฉันท์ ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำเวลาไปทำเรื่องนี้ รวมทั้งไปแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน อย่ามัวแต่หมกมุ่น หวาดกลัว อดีตนายกรัฐมนตรี จนไม่เป็นอันทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
"ตู่" ฉุน "ถอดยศแม้ว"
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม ถึงกรณีที่ คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นให้ถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เร่งดำเนินการ และพยายามหยิบยกมาทำลายชื่อเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้ง แต่มาถึงวันนี้ รัฐบาลจะดำเนินการอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกระทำทุกอย่างมาหมดแล้ว
ขู่กระทู้ถาม "มาร์ค"คดีหมิ่น-เอกสารเท็จ
นายจตุพร กล่าวว่า แต่เมื่อมีการเร่งดำเนินการเรื่องนี้ ตนก็จะตั้งกระทู้ถามสด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า กรณีที่มีผู้แจ้งความคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ไว้ที่กองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับ นายอภิสิทธิ์ กรณีไม่นำนายทหาร และนายตำรวจยศนายพลเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯก่อนเข้ารับตำแหน่ง รวมทั้งคดีการใช้เอกสารเท็จสมัครเข้าเป็นอาจารณ์โรงเรียนนายร้อย และการดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่เขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ไปจนถึงคดีที่มีมีการแจ้งความดำเนินคดีกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่หมิ่นประมาทพรรคเพื่อไทยกรณีที่บอกว่าให้พล.อ.ชวลิต พิจารณาให้รอบคอยที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทรยศต่อชาติ
นายจตุพร กล่าวว่า ตนมีสิทธิ์ที่จะตั้งกระทู้ถามถามนายอภิสิทธิ์ อย่างเต็มที่ว่าคดีต่างๆ คืบหน้าไปถึงไหน เพราะนายอภิสิทธิ์มีอำนาจในการกำกับดูแล สตช. แต่ถูกหน่วยงานในกำกับดำเนินคดี ซึ่งดูเหมือนว่าคดีความต่างๆไม่คืบหน้า ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ควรให้ตนได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เพราะพล.อ.เปรม และพล.อ.สุรยุทธ์ อยู่ในสถานะเดียวกับตน สำหรับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นจะยังอยู่ในกำหนดเดิมที่เราได้นัด ชุมนุมใหญ่ไว้คือช่วงปลายเดือนพฤษศจิกายน หลังจากเสร็จงานระดมทุนที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมาเรียบร้อยไปแล้ว โดยเรื่องการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีผลอะไรกับการเคลื่อนไหว
"เฉลิม"ลั่นไม่เคยมีถอดยศแบบนี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงที่รัฐสภาถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นให้ถอดยศ และริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ตามปกติแล้วความเห็นของกฤษฎีกา รัฐบาลจะฟังก็ได้หรือไม่ฟังก็ได้ แล้วแต่ว่าจะส่งประโยชน์ให้รัฐบาลมากน้อยเพียงใด แต่เท่าที่ตนเคยรับราชการตำรวจจนมาถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เป็นกรมตำรวจจนมาเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการถอดยศเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะการถอดยศที่ผ่านมา จะเป็นการถอดยศข้าราชการตำรวจที่ยังอยู่ในราชการ และมีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ส่งผลเสียหายให้กับสตช.และประเทศชาติ แต่ในกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ได้ลาออกจากราชการมานานแล้ว เรื่องที่มีปัญหาก็เป็นเรื่องการเมือง ศาลไม่เคยพิพากษาว่าพ.ต.ท.ทักษิณทุจริตหรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จึงขอให้รัฐบาลคิดให้รอบคอบ ขอให้มีหิริโอตัปปะ และขอให้สตช.ตั้งหลักให้ดี
"การถอดยศนั้น ต้องประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เกี่ยวพันยาเสพติด ทุจริตหรือคบชู้สู่สาวกับภรรยาชาวบ้าน สิ่งเหล่านี้คือเหตุของการถอดยศได้ทั้งสิ้น ที่สำคัญยศนี้เป็นยศพระราชทาน ไม่ใช่ยศที่พรรคประชาธิปัตย์ให้มา คุณอภิสิทธิ์ไม่อยากใช้ยศก็เรื่องของคุณ แต่คนที่ได้รับพระราชทานเขารำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องการเมือง อย่าใช้ความคับแค้นส่วนตัว ที่ต้องตกเป็นพรรคฝ่ายค้านถึง 8 ปี ภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของ พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินการ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯ ระบุว่าเป็นการดำเนินการของสตช.เอง ไม่เกี่ยวกับการสั่งการของนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปากว่าตาขยิบ พูดจาเพราะ ตัวช่วยเยอะ อย่างเรื่องกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง หากพวกตนเป็นรัฐบาลโดนอภิปรายอย่างนั้นอยู่ไม่ได้แล้ว แต่พอเป็นพรรคประชาธิปัตย์ กลับมีตัวช่วยเยอะ กกต.ก็ยังสอบไม่เสร็จเสียที ก็ให้รู้กันไปว่าจะเอาอย่างนี้ และขอให้ทำไปเรื่อยๆ มีแต่จะส่งผลให้พรรคเพื่อไทยได้ส.ส.เกิน 300 คน เพราะตอนนี้ตามโพลล์ก็เกินครึ่งแล้ว เป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้แล้ว สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำจะทำให้ส.ส.เพื่อไทยเพิ่มมากขึ้น
"แม้ว"เล็งไปขอบคุณ"ฮุนเซน"
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า ระหว่างการประชุม ส.ส.พรรค พท. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอลิงก์มาพูดคุยกับสมาชิกพรรค โดยกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ชป.) จะเปิดโปงผลประโยชน์ทับซ้อนของ พ.ต.ท.ทักษิณกับสมเด็จฯฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ว่า พรรคประชาธิปัตย์พยายามกล่าวหาตนมาโดยตลอด แต่แม่ของตนสอนมาว่าหมากัดอย่ากัดตอบ ยืนยันว่าตนไม่มีธุรกิจในกัมพูชา ทั้งเรื่องน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีแต่ความเป็นเพื่อนกับสมเด็จฯฮุน เซน ที่รู้จักกันมานาน และตั้งแต่เดินทางออกจากประเทศไทยยังไม่เคยไปกัมพูชาแม้แต่ครั้งเดียว ที่มีข่าวว่าไปอยู่เกาะเกาะหนึ่ง ก็ไม่เคยไป แต่อาจจะไปเร็วๆ นี้ เพื่อขอบคุณสมเด็จฯฮุน เซนที่มีน้ำใจ แต่ไม่คิดว่าจะไปอยู่กัมพูชา เพราะไม่อยากให้รัฐบาลกุ้งเต้น กลัวไปมากกว่านี้
"ที่บอกว่าผมต้องการทำลายความมั่นคง ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่เป็นความมั่นคงของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
"จิ๋ว"หัวร่อคนด่า"ขายชาติ"
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ชวลิต ยังชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคถึงเข้าพบสมเด็จฯฮุน เซน ว่า ความจริงแล้วตนไม่ได้ไปทำอะไรเลย พรรค ปชป.ทำให้ทั้งนั้น ตนรู้จักกับสมเด็จฯฮุน เซนมา 25 ปี ไปกัมพูชาเพื่อบ้านเมือง สิ่งที่พูดคุยกันก็มี 3 เรื่องคือ หนึ่ง การแยกกำลังทหารออกจากพื้นที่ สองเมื่อแยกแล้วก็ให้เจบีซี (กรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา) เข้ามาแก้ไขปัญหาชายแดน และสามการเปิดจุดชายแดนถาวรเพื่อทำการค้าขาย ซึ่งสมเด็จฯฮุน เซนเสนอให้เปิดทั้งแนวชายแดนไปเลย และยังพูดเรื่องทรัพยากรในพื้นที่ทับซ้อนที่เคยแสดงท่าทีมาแล้ว 2 ครั้งแต่รัฐบาลนี้ไม่มีใครตอบรับ
"นอกเหนือจากนี้ก็เป็นการพูดคุยเรื่องส่วนตัวทั่วๆ ไป สมเด็จฯฮุน เซน ท่านก็บอกว่ารัก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพื่อนกันมานาน และยอมไม่ได้ที่เพื่อนได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ผมกลับมาเมืองไทยก็พูดแค่นี้ แต่คนก็เอาไปพูดอย่างอื่นหาว่าผมขายชาติ แต่ผมก็ไม่ได้ตอบโต้ ได้แต่หัวร่อ" แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.อ.ชวลิต
เล็งลงใต้3-5พ.ย.คุยไร้เสียงปืน
ข่าวแจ้งว่า พล.อ.ชวลิตยังกล่าวว่า กลางเดือนพฤศจิกายนจะเข้าพบนายนาจิบ ราซัค นายกฯมาเลเซียตามคำเชิญเพื่อสร้างสัมพันธภาพและพูดคุยเรื่องการพัฒนาร่วมกัน จากนั้นปลายเดือนจะเข้าพบ พล.อ.อาวุโสตาน ฉ่วย ผู้นำสูงสุดรัฐบาลทหารพม่า และจะเข้าพบท่านโว เหวียน เกี๊ยบ วีรบุรุษประเทศเวียดนาม
"วันที่ 3 พฤศจิกายนจะไปทำงานในภาคใต้ในนามพรรคเพื่อไทย โดยเราจะแสดงให้โลกและผู้คนเห็นว่าสันติภาพสร้างได้ เป็นงานที่ท้าทายพอสมควร แม้ว่าจะไม่บรรลุผล 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ได้แค่ 70-80 เปอร์เซ็นต์ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายนจะไม่มีแม้แต่เสียงปืนนัดเดียว ถ้าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น วันที่ 5 พฤศจิกายน พวกเราทุกคนจะลุกขึ้นมาประกาศวันสันติภาพสู่มาตุภูมิถวายพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ในนามพรรคเพื่อไทย" แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.อ.ชวลิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น